วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

ชา กับความเป็นมา จากร้านบ้านยาหอม จ.นครสวรรค์



             ชา ถือกำเนิดมาจากพืชตระกูล Camelliea มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Camelliea sinensis ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ใบแหลมสีเขียว ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ส่วนที่นำมาเป็นเครื่องดื่มจะอยู่บนสุด เป็นตำแหน่งของการผลิใบอ่อน และการแตกหน่อ ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณภาพดีที่สุด แต่ถึงจะมาจากพืชตระกูลเดียวกัน ก็ยังมีหลากหลาย
              แบ่งได้ 4 ประเภท แตกต่างไปตามกรรมวิธีการหมักบ่ม หรือการผลิต  ได้แก่
      1.)  ชาขาว คือ ชาที่ได้จากการเลือกเก็บยอดชาที่อ่อนมาก คือ ยังมีขนเล็ก ๆ สีขาวปกคลุมยอดชาอยู่ ใบชาจะคงสภาพเหมือนใบชาสดและมีสีขาว น้ำที่ชงจากชาขาวจะมีสีใสๆ ถึงสีเหลืองอ่อน มีลักษณะใกล้เคียงกับชาเขียว ในแต่ละปีจะเก็บเกี่ยวยอดชาเพื่อนำมาผลิตชาขาวได้ในบ างวันเท่านั้น
       2.)  ชาเขียว คือ ชาที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก ในระยะเวลาสั้น การผลิตชาเขียว ทำโดยนำใบชาที่เก็บมาได้ มาผ่านไอน้ำหรือความร้อน  เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทันที จากนั้นนำไปกลิ้งด้วยลูกกลิ้งและทำให้แห้งอย่างรวดเร ็ว ใบชาที่ได้จึงยังคงมีสีเขียว  ในชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันรอยเหี่ยวย่น สีผิวด่างดำ และแห้งกร้าน
       3) ชาอูหลง  คือ ชาที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการหมักแต่เพียง 10-80 เปอร์เซ็นต์ คือระยะเวลาการหมักนานกว่าชาเขียว ชาประเภทนี้จะมีสีและกลิ่นมากกว่าชาเขียวขึ้นมาหน่อย รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม เมื่อดื่มจะให้รสฝาด และขมเล็กน้อย ชุ่มคอ 
        4.) ชาอังกฤษ  เป็นชาที่ติดอันดับยอดนิยม ผู้คนนิยมดื่มกันทั่วโลก โดยเฉพาะแถบยุโรป คนไทยบางคนเรียกว่า ชาฝรั่ง การผลิตจะนิยมใช้ชาพันธุ์ ดีมีสารโพลีพินอลสูง ดีต่อสุขภาพ โดยเริ่มจากการนำใบชาไปหมักด้วยระยะเวลานานก่อให้เกิดการหมักอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้สีและรสชาติที่เข้มข้นมาก น้ำชาเป็นสีส้มหรือน้ำตาลแดง
     สรุป  ได้ว่า ใบชาที่เก็บมาจากยอดชาจะเรียกว่าชาขาว เมื่อผ่านการหมักในระยะเวลาสั้นๆจะเรียกว่าชาเขียว หากหมักระยะเวลานานขึ้นมาหน่อย จะมีสีเข้มขึ้น เรียกว่า ชาอูหลง ส่วนชาที่มีความเข้มข้นที่สุดเพราะผ่านการหมักบ่มอย่ างยาวนาน ก็คือ ชาอังกฤษ              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น